ASP.Net MVC ความเป็นมา

ASP.NET MVC Framework เป็น web application framework ที่นำเอาแพทเทิร์น model-view-controller (MVC) มาใช้

ความเป็นมา

---

ASP.NET MVC ทำงานบน ASP.NET มันอนุญาตให้นักพัฒนาซอร์ฟแวร์สร้าง Web Application ที่มีสามองค์ประกอบคือ Model, View และ Controller.

Model เป็นส่วนที่แสดงส่วนลักษณะเฉพาะของแอพพลิเคชั่น -- ทำงานเกี่ยวกับข้อมูลของตัวเว็บไซต์ และรวมถึงการจัดการข้อมูลดาต้าเบสด้วยก็ได้. Controller ใช้ตรวจจับการกระทำและอัพเดทตัว Model ที่มีการเปลี่ยนแปลงสถานะในตัวแอพพลิเคชั่น และนำข้อมูลนั้นไปแสดงที่ View -- ทำงานที่ปฏิสัมพันธ์กับผู้ใช้โดยรับคำสั่งการแสดงผลข้อมูลผ่านทาง View และจัดการและเรียกใช้ข้อมูลของตัว Model. View รับข้อมูลที่จำเป็นจาก Controller และแสดงผล(render)หน้าตาของเว็บใช้ให้ผู้ใช้งานเห็น

ในเดือนเมษายน 2552 (ค.ศ.2009)  ซอร์สโค้ดของ ASP.NET MVC ถูกใช้งานภายใต้ลายเส้นแบบ Microsoft Public License (MS-PL)

ASP.NET MVC Framework เป็นเฟรมเวิร์คที่มีขนาดเล็ก, ความเสถียนสูง โดย presentation framework ที่นำเข้ามาร่วมโดยใช้ความสามารถของ ASP.NET. ฟังชั่นหลายอย่างที่ถูกนำมารวมเช่น master pages และ membership-based authentication. MVC Framework ถูกนิยามไว้ใน System.Web.Mvc assembly.

ASP.NET MVC Framework ประกอบด้วย models, views และ controllers โดยใช้ interface-based contracts ซึ่งช่วยให้แต่ละ component สามารถทำการทดสองความถูกต้องได้ง่ายอย่างอิสระ

ASP.Net MVC คืออะไรและความหน้าสนใจของมัน

ASP.Net MVC คือ เฟรมเวิร์คหนึ่งของการพัฒนาเว็บทของไมโครซอร์ฟ โดยนำมาใช้งานร่วมกับเทคโนโลยี ASP.Net ของตัวเอง มารวมกับเฟรมเวิร์ค MVC ผลที่ได้ก็คือ MVC ที่ใช้เทคโนโลยีของไมโครซอร์ฟนั้นเอง "ฮาฮ่างงได้อีก"

ตัวเฟรมเวิร์ดที่ใช้ในการพัฒนาเว็บที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันก็มีประมาณ 4 อย่างคือ 

1. Model-View-Controller (MVC)
2. Push-based VS Pull-based
3. Three-tier Organizaiton
4. Content Management System (CMS)

อ่านต่อที่นี้ http://en.wikipedia.org/wiki/Web_application_framework "ถ้าอยากอ่านเป็นภาษาไทยเดียวว่าง ๆ จะแปลให้ครับ"

หายหน้าไปนาน

วันนี้พอมีเวลามาอัพเดทเนื้อหาของ blog บ้างรู้สึกว่าต้องหาเวลามาเขียนบ้าง เป็นที่ระบายอารมณ์ และระบายความรู้ให้คนอื่นบ้าง แต่บางที่ก็อาจไม่มีใครสนใจเลยก็ได้ ใจจริงก็อยากจะแปลเนื้อหาหรือบทความจากเว็บต่างประเทศมาให้คนไทยได้อ่าน แต่เนื่องด้วยความสามารถทางด้านภาษาไม่อำนวจ อาจจะมีบทความแปลโผ่มาบาง หรืออาจจะเป็นหัวข้อหรือสรุปเนื้อหามาให้ดูบ้างแล้วแปะลิ้งค์ไปให้อ่านต่อกันเอง เริ่มเข้าใจแล้วว่าการเขียนบทความบทความหนึ่งมันต้องใช้พลังงานมากแค่ไหน คนที่ไม่เคยเขียนหรือแปลคงไม่รู้ อย่างไงแนะนำให้ลองทำดูก็ได้นะครับ หาเรื่องที่สนใจแล้วลองแปลดู