December 11, 2013
ASP.NET MVC 5.1
ASP.NET MVC 5.1 มีการเพิ่มความสามารถใหม่คือ
1. Attribute Routing
2. Bootstrap support in HTML Helpers
3. Support for Enums -- มีการเพิ่ม HtmlHelpers attributes อีกอย่างหนึ่งคือ Html.EnumDropDownListFor() ทำให้สามารถสร้าง Dropdown จาก Enums ได้
referent: http://blogs.msdn.com/b/webdev/archive/2013/12/09/asp-net-and-web-tools-2013-2-preview-for-visual-studio-2013.aspx
October 25, 2013
ASP.NET MVC 5
ASP.NET MVC ตอนนี้ (ตุลาคม 2556) เวอร์ชั่นปัจจุบันก็ 5 แล้ว ถ้าเรียกอย่างเป็นทางการก็ ASP.NET MVC5 สิ่งที่เปลี่ยนแปลงก็มีมากมาย แต่อาจมองไม่เห็นกัน แต่สิ่งแรกที่คุณจะต้องทำหากคุณต้องการพัฒนาเว็บไซต์ของคุณที่ให้เวอร์ชั่นนี้คือ ติดตั้ง Visual Studio 2013 จะ edition ให้ก็ได้ตั้งแต่ Express ถึง Ultimate แล้วแค่ความสะดวก และกำลังทรัพย์ของแต่ละคน ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ url ด้านล่าง ส่วนรายละเอียดอื่น ๆ เดียวผมจะแนะนำให้ในวันต่อไป
July 3, 2013
Microsoft SQL Server Express
วันนี้จะติดตั้ง SQL Server ลงในเครื่องเพื่อทดสอบซักหน่อย ได้เรื่องเลยเขียนเป็นบทความดีกว่า หลังจากเข้าไปที่ google แล้วค้นหาคำว่า SQL Server express ได้ผลลัพธ์มากมาย แต่ของเลือกผลลัพธ์นี้
http://www.microsoft.com/en-us/download/details.aspx?id=29062
http://www.microsoft.com/en-us/download/details.aspx?id=29062
April 11, 2013
C# วิธีการแปล string to enum
C# วิธีการแปล string ให้เป็น enum
public static EnumType ToAssetType(string name)
{
EnumType enumType = 0;
try
{
enumType = (EnumType) Enum.Parse(typeof (EnumType), name);
}
catch(Exception e)
{
//จะเกิด Exception เมื่อ agreement name ไม่มีอยู่ใน enum
}
return enumType;
}
public static EnumType ToAssetType(string name)
{
EnumType enumType = 0;
try
{
enumType = (EnumType) Enum.Parse(typeof (EnumType), name);
}
catch(Exception e)
{
//จะเกิด Exception เมื่อ agreement name ไม่มีอยู่ใน enum
}
return enumType;
}
March 1, 2013
7 วิธีที่ไม่ทำให้ตัวเองเป็นเหมือนพรมเช็ดเท้า
สำหรับคนที่ภาษาอังกฤษดีอ่านต้นฉบับได้ ที่นี้ แต่ถ้าอยากอ่านภาษาไทยสบาย อ่านต่อได้ที่นี้
การเป็นเหมือนพรมเช็ดเท้าเป็นอะไรที่แย่มาก
มันสามารถเดินขึ้นได้แบบไม่ชัดเจนและไม่มีเหตุผล ผู้คนเหล่านั้นใช้คุณปฏิบัติต่อคุณเหมือนว่าคุณเป็นสุนัข (doogsbody) อยู่เหนือคุณ หรือไม่สนใจในสิ่งที่คุณต้องการหรือสิ่งที่ดีสำหรับคุณ. ปัญหาคือ สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้เกินกับคุณมากขึ้น, คุณรู้สึกเหมือนคุณไม่สามารถจัดการกับมันได้มากขึ้น, ผลตอบแทนที่คุณควรจะได้รับลดลง
นี้คือบางส่วนของวิธีการปฏิวัติที่คุณสามารถหยุดการปฏิบัติตนเหมือนพรมเซ็ดเท้า และเริ่มปฏิบัติกับตัวเองด้วยความเคารพ
เริ่มเปลี่ยนด้วยการที่คุณกระตุ้นตัวเองให้มีคุณค่า สิ่งนี้สามารถเริ่มต้นทำได้ด้วยวิธิเหล่านี้:
a. ให้เครดิตกับตัวเองสำหรับความสำเร็จของคุณ -- ทุก ๆ สิ่งที่คุณทำผ่านมาในชีวิตของคุณ
b. รู้คุณค่าของตัวเอง -- สิ่งต่าง ๆ ที่ทำให้คุณท้อ และเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเป็นตัวคุณ
c. จัดลำดับความสำคัญของการดูแล ร่างกาย, ความรู้สึก และหัวใจของคุณ -- ไม่มีใครที่ไหนสามารถเลียงดูและดูและตัวคุณได้
2. เริ่มสอนคุณอื่น
สิ่งหนึ่งดีเป็นสิ่งที่ดีที่ฉันได้ยินจากราบการของ Dr Phil ว่า "คุณสอนคนอื่น ๆ ถึงวิธีปฏิบัติกับคุณ"
มันเจ่งมาก
ปฏิกริยาตอบสนองของคุณกับพฤติกรรมของบางคน เพื่อสอนพวกเขาว่าสิ่งที่ยอมรับและสิ่งที่ยอมรับไม่ได้. ดังนั้นถ้าคุณยอมรับกับสิ่งที่เขาปฏิบัติกับคุณ, การสื่อสารคือสิ่งที่ดีกับพวกเขาเพื่อให้ทำ. และคนทั่วไปจะทำในสิ่งที่ดีดีกับตัวเองเสมอ จนกว่าพวกเขาจะมีหลักฐานว่ามันใช้ไม่ได้, หรือมันมีวิธีที่ดีกว่า. พวกเขาค่อนข้างโง่เช่นนั้น
หากมีใครปฏิบัติต่อคุณอย่างกับพรมเช็ดเท้า, พฤติกรรมของพวกเขาไม่ดีเลย. งานของ และสิ่งที่คุณได้รับคือความน่ากลัวอาจดูเหมือน สิ่งที่เปลี่ยนการตอบสนองเป็นการเริ่มต้นสื่อสารกับพวกเขา. ไม่ต้องทำเป็นอะไรใหญ่โต, หรือเรื่องจริงจัง. มันสามารถทำได้อย่างนุ่มนวลและด้วยความเคารพเช่นเดียวกับที่คุณต้องการ. คุณอาจจะกลัว แต่คุณรู้ว่าปราภณาที่จะทำ
ดังเช่นประโยคที่ได้รับความนิยมนี้ "ช่วยเเหลือคนอื่น เท่ากับช่วยเหลือตัวเอง"
มันเป็นสิ่งที่ดีในการทำสิ่งต่าง ๆ ให้กับคนอื่น ๆ, อย่างน้อยการกระทำเพื่อทำสิ่ง ๆ สำหรับคนอื่น ๆ เป็นวิธีที่คุณได้รับความรู้สึกดี, อย่างแน่นนอน
การเป็น.คนไม่กล้าปฏิเสธ.อาจเริ่มต้อนการตั้งใจอย่างแน่วแน่. แต่ถ้าคุณไม่ระวัง, คุณควรทำต่อไป เนื่องจากคุณต้องการเห็นวิธีที่พวกเขายินดีกับสิ่งที่คุณได้ทำ หรือแม้กระทั่งได้ยินคำพูดเหล่านี้ "ขอบคุณ". การเป็นคนที่ไม่กล้าปฏิเสธสามารถทำให้คุณกลายเป็นคนไม่รู้จักพอ -- มันไม่ใช่เพียงแค่คนอื่นได้ประโยชน์จากคุณ แต่ความจริงมันมีผลต่อความภาคภูมิใจของตัวคุณเอง
ผู้คนที่ไม่ปฏิเสธไม่ใช่เป็นการกระทำที่ไม่เห็นแก่ตัว มันเป็นการเห็นแก่ตัวแบบหนึ่ง
("People-pleasing is not a selfless act; it’s a selfish one.")
มันเป็นวิธีทางที่ไม่สมบูรณ์ในการสร้างความรู้สึกดีกับตัวเอง, ดังนั้นหยุดทำมัน. ทำอย่างไรให้คุณสามารถให้โอกาสกับตัวคุณเอง? และทำอย่างไรที่มันจะเปิดโอกาสให้คุณอื่นด้วย, ไม่ใช่เพราะความถูกต้องแต่เพราะ พวกเขามีค่าพอในทุกการกระทำในการให้?
ขอบคุณทุกอย่างที่คุณทำ, ที่ที่มีคำถามที่ว่าคุณสามารทำมันได้หรือสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน. มันอาจจะเหมือนกับการทำบางอย่างที่คุณทำที่บ้าน (เช่น การทำอาหาร, หัวเราะกับคู่ของคุณ หรือการตกแต่งห้อง) มันอาจจะเป็นบางอย่างในที่ทำงาน (เช่น การมีส่วนร่วมในที่ประชุด, การเขียนรายงาน หรือการเสนอนะวิธีการแก้ปัญหา) หรือมันอาจเป็นบางสิ่งที่คุณทำเพื่อการเข้าสังคม (เช่น คุยกับเพื่อน, สั่งไวน์ในร้านอาหาร หรือพบปะคนใหม่ ๆ )
โดยธรรมชาติของความเชื่อมั่นคือความสามารถในการที่จะวางในในพฤติกรรมของตัวเองกับความเชื่ออย่างแท้จริงในความสามารถของตัวเอง, ดังนั้นคุณกำลังทำบางสิ่งบางอย่างอยู่, ไม่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับความสามารถของคุณกับการกระทำต่าง ๆ -- คุณมีความมันใจในตัวเองสูง. นำไปใช้กับความรู้สึกเดียวกับความมันใจกับสถานะการใหม่ ๆ ที่มันให้คุณจัดการสิ่งต่าง ๆ ได้ หรือ แค่เพื่อออกจากพื่นที่ปลอดภัย, และมันจะเป็นเพียงความรู้สึกไม่ปลอดภัยบ้าง
แม้ความรู้สึกไม่ปลอดภัยแต่มันก็ไม่ได้เป็นอันตรายร้ายแรง และมันไม่ได้หมายความว่าคุณไม่มีความมันใจในตัวเอง, มันแค่หมายความว่าคุณรู้สึกว่าตัวเองใหม่. มั่นใจในตัวเองที่จะทำสิ่งที่ดีที่สุด
ขอใครสักคนที่คุณไว้วางใจที่จะพูดคุยเกียวกับ สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นเพียงวิธีที่ดีเพื่อกำจัดแต่น้อย, มันก็อาจช่วยให้คุณสามารถย้อนกลับไปให้คุณพอที่จะเห็นมุมมองใหม่ ๆ หรือวิธีการอื่น ๆ ที่คุณสามารถผ่านไปได้. คุณไม่จำเป็นต้องให้ใครซักคนมาช่วยแก้ปัญหาให้คุณ, ดังนั้นอย่าปล่อยให้แรงกระตุ้นอยู่หยุดเพียงแค่นี้ -- จุดที่คุณต้องติดต่อกับมนุษย์คนอื่น ๆ เพื่อนให้เขาสนับสนุนความมันใจของคุณ
วิธีคิดเกียวกับเรื่องนี้: ถ้าเป็นเพื่อนที่ดีของคุณกำลังประสบสิ่งเดียวกัน คุณอยากได้ยินอะไรเกียวกับมัน และสนุนพวกเขาให้บรรลุสิงที่ดีกว่าได้อย่างไร?
อย่าสร้างสมมุติฐาน เกียวกับสิ่งที่คุณควรทำ หรืออะไรที่คุณควรคาดหวัง. ถ้าคุณกำลังมีหลาย ๆ ความคาดหวังเกียวกับทำสิ่งที่ควรจะเป็น, ทำมันให้อยู่บนพื้นญานของสิ่งที่คุณรักและเฝ้ามองมัน, ไม่ใช่สิ่งที่คุณหวังว่าจะไม่เกินขึ้น
ถ้าคุณต้องการและยินดีที่จะเอาตัวเองออกจากสถาฯะการณ์ หรือความสัมพันธ์ และเริ่มต้นสร้างชีวิตแบบที่คุณต้องการ คุณจะรักการมีชีวิตอยู่
การเป็นเหมือนพรมเช็ดเท้าเป็นอะไรที่แย่มาก
มันสามารถเดินขึ้นได้แบบไม่ชัดเจนและไม่มีเหตุผล ผู้คนเหล่านั้นใช้คุณปฏิบัติต่อคุณเหมือนว่าคุณเป็นสุนัข (doogsbody) อยู่เหนือคุณ หรือไม่สนใจในสิ่งที่คุณต้องการหรือสิ่งที่ดีสำหรับคุณ. ปัญหาคือ สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้เกินกับคุณมากขึ้น, คุณรู้สึกเหมือนคุณไม่สามารถจัดการกับมันได้มากขึ้น, ผลตอบแทนที่คุณควรจะได้รับลดลง
นี้คือบางส่วนของวิธีการปฏิวัติที่คุณสามารถหยุดการปฏิบัติตนเหมือนพรมเซ็ดเท้า และเริ่มปฏิบัติกับตัวเองด้วยความเคารพ
1. เริ่มกับตัวเอง
หากมีบางคนเขาลดคุณค่าของคุณ คุณมีโอกาสดีที่คุณกำลังทำสิ่งเดียวกันนั้น แต่อีกมุมหนึ่ง. ด้วยการเริ่มเปลี่ยนแปลงที่ตัวคุณ โดยต้องการซื่อสัตย์กับตัวเอง -- คุณเคยรู้สึกเหมือนคุณสมควรได้รับการปฏิบัติด้วยความนับถือหรือเปล่า? คุณรู้สึกกังวลกับความนับถือและคุณรู้สึกดีพอที่จะหรือยัง?เริ่มเปลี่ยนด้วยการที่คุณกระตุ้นตัวเองให้มีคุณค่า สิ่งนี้สามารถเริ่มต้นทำได้ด้วยวิธิเหล่านี้:
a. ให้เครดิตกับตัวเองสำหรับความสำเร็จของคุณ -- ทุก ๆ สิ่งที่คุณทำผ่านมาในชีวิตของคุณ
b. รู้คุณค่าของตัวเอง -- สิ่งต่าง ๆ ที่ทำให้คุณท้อ และเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเป็นตัวคุณ
c. จัดลำดับความสำคัญของการดูแล ร่างกาย, ความรู้สึก และหัวใจของคุณ -- ไม่มีใครที่ไหนสามารถเลียงดูและดูและตัวคุณได้
2. เริ่มสอนคุณอื่น
สิ่งหนึ่งดีเป็นสิ่งที่ดีที่ฉันได้ยินจากราบการของ Dr Phil ว่า "คุณสอนคนอื่น ๆ ถึงวิธีปฏิบัติกับคุณ"
มันเจ่งมาก
ปฏิกริยาตอบสนองของคุณกับพฤติกรรมของบางคน เพื่อสอนพวกเขาว่าสิ่งที่ยอมรับและสิ่งที่ยอมรับไม่ได้. ดังนั้นถ้าคุณยอมรับกับสิ่งที่เขาปฏิบัติกับคุณ, การสื่อสารคือสิ่งที่ดีกับพวกเขาเพื่อให้ทำ. และคนทั่วไปจะทำในสิ่งที่ดีดีกับตัวเองเสมอ จนกว่าพวกเขาจะมีหลักฐานว่ามันใช้ไม่ได้, หรือมันมีวิธีที่ดีกว่า. พวกเขาค่อนข้างโง่เช่นนั้น
หากมีใครปฏิบัติต่อคุณอย่างกับพรมเช็ดเท้า, พฤติกรรมของพวกเขาไม่ดีเลย. งานของ และสิ่งที่คุณได้รับคือความน่ากลัวอาจดูเหมือน สิ่งที่เปลี่ยนการตอบสนองเป็นการเริ่มต้นสื่อสารกับพวกเขา. ไม่ต้องทำเป็นอะไรใหญ่โต, หรือเรื่องจริงจัง. มันสามารถทำได้อย่างนุ่มนวลและด้วยความเคารพเช่นเดียวกับที่คุณต้องการ. คุณอาจจะกลัว แต่คุณรู้ว่าปราภณาที่จะทำ
ดังเช่นประโยคที่ได้รับความนิยมนี้ "ช่วยเเหลือคนอื่น เท่ากับช่วยเหลือตัวเอง"
3. หยุดการเป็นคนที่สิ้นหวัง
มันเป็นสิ่งที่ดีในการทำสิ่งต่าง ๆ ให้กับคนอื่น ๆ, อย่างน้อยการกระทำเพื่อทำสิ่ง ๆ สำหรับคนอื่น ๆ เป็นวิธีที่คุณได้รับความรู้สึกดี, อย่างแน่นนอน
การเป็น.คนไม่กล้าปฏิเสธ.อาจเริ่มต้อนการตั้งใจอย่างแน่วแน่. แต่ถ้าคุณไม่ระวัง, คุณควรทำต่อไป เนื่องจากคุณต้องการเห็นวิธีที่พวกเขายินดีกับสิ่งที่คุณได้ทำ หรือแม้กระทั่งได้ยินคำพูดเหล่านี้ "ขอบคุณ". การเป็นคนที่ไม่กล้าปฏิเสธสามารถทำให้คุณกลายเป็นคนไม่รู้จักพอ -- มันไม่ใช่เพียงแค่คนอื่นได้ประโยชน์จากคุณ แต่ความจริงมันมีผลต่อความภาคภูมิใจของตัวคุณเอง
ผู้คนที่ไม่ปฏิเสธไม่ใช่เป็นการกระทำที่ไม่เห็นแก่ตัว มันเป็นการเห็นแก่ตัวแบบหนึ่ง
("People-pleasing is not a selfless act; it’s a selfish one.")
มันเป็นวิธีทางที่ไม่สมบูรณ์ในการสร้างความรู้สึกดีกับตัวเอง, ดังนั้นหยุดทำมัน. ทำอย่างไรให้คุณสามารถให้โอกาสกับตัวคุณเอง? และทำอย่างไรที่มันจะเปิดโอกาสให้คุณอื่นด้วย, ไม่ใช่เพราะความถูกต้องแต่เพราะ พวกเขามีค่าพอในทุกการกระทำในการให้?
4. สร้างความหน้าเชื่อถือ
หากคุณใช้คนรอบ ๆ ตัวคุณ, มันเหมือนกับคุณไม่ได้เชื่อถือในตัวเอง. คุณอาจรู้สึกเหมือนคุฯมีอำนาจ, แต่ฉันขอยื่นยันกันคุณว่าสิงที่คุณมีความมันใจโดยธรรมชาติมันสามารถทำให้คุณช่วยคุณเริ่มต้นกับการเปลี่ยนแปลงต่างขอบคุณทุกอย่างที่คุณทำ, ที่ที่มีคำถามที่ว่าคุณสามารทำมันได้หรือสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน. มันอาจจะเหมือนกับการทำบางอย่างที่คุณทำที่บ้าน (เช่น การทำอาหาร, หัวเราะกับคู่ของคุณ หรือการตกแต่งห้อง) มันอาจจะเป็นบางอย่างในที่ทำงาน (เช่น การมีส่วนร่วมในที่ประชุด, การเขียนรายงาน หรือการเสนอนะวิธีการแก้ปัญหา) หรือมันอาจเป็นบางสิ่งที่คุณทำเพื่อการเข้าสังคม (เช่น คุยกับเพื่อน, สั่งไวน์ในร้านอาหาร หรือพบปะคนใหม่ ๆ )
โดยธรรมชาติของความเชื่อมั่นคือความสามารถในการที่จะวางในในพฤติกรรมของตัวเองกับความเชื่ออย่างแท้จริงในความสามารถของตัวเอง, ดังนั้นคุณกำลังทำบางสิ่งบางอย่างอยู่, ไม่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับความสามารถของคุณกับการกระทำต่าง ๆ -- คุณมีความมันใจในตัวเองสูง. นำไปใช้กับความรู้สึกเดียวกับความมันใจกับสถานะการใหม่ ๆ ที่มันให้คุณจัดการสิ่งต่าง ๆ ได้ หรือ แค่เพื่อออกจากพื่นที่ปลอดภัย, และมันจะเป็นเพียงความรู้สึกไม่ปลอดภัยบ้าง
แม้ความรู้สึกไม่ปลอดภัยแต่มันก็ไม่ได้เป็นอันตรายร้ายแรง และมันไม่ได้หมายความว่าคุณไม่มีความมันใจในตัวเอง, มันแค่หมายความว่าคุณรู้สึกว่าตัวเองใหม่. มั่นใจในตัวเองที่จะทำสิ่งที่ดีที่สุด
5. คุณไม่ได้อยู่คนเดียว
หากคุณต้องเจ็บปวดบ้างกับสิ่งที่เกินขึ้นบางครั้ง คุณอาจะรู้สึกโดดเดียวในบางสถานะการของชีวิตคุณ, แม้มันอาจเป็นสิ่งที่มีประโยชน์พิเศษและสำคัญในการพูดถึงมัน หรือแม้กระทั่งการร้องขอการสนับสนุนหรือความช่วยเหลือ. คนอื่น ๆ ที่กำลังทำบางอย่างอยู่ เหมือนกับสิ่งที่คุณกำลังทำ, นั้นหมายความว่าคุณไม่ได้อยู่คนเดียวขอใครสักคนที่คุณไว้วางใจที่จะพูดคุยเกียวกับ สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นเพียงวิธีที่ดีเพื่อกำจัดแต่น้อย, มันก็อาจช่วยให้คุณสามารถย้อนกลับไปให้คุณพอที่จะเห็นมุมมองใหม่ ๆ หรือวิธีการอื่น ๆ ที่คุณสามารถผ่านไปได้. คุณไม่จำเป็นต้องให้ใครซักคนมาช่วยแก้ปัญหาให้คุณ, ดังนั้นอย่าปล่อยให้แรงกระตุ้นอยู่หยุดเพียงแค่นี้ -- จุดที่คุณต้องติดต่อกับมนุษย์คนอื่น ๆ เพื่อนให้เขาสนับสนุนความมันใจของคุณ
วิธีคิดเกียวกับเรื่องนี้: ถ้าเป็นเพื่อนที่ดีของคุณกำลังประสบสิ่งเดียวกัน คุณอยากได้ยินอะไรเกียวกับมัน และสนุนพวกเขาให้บรรลุสิงที่ดีกว่าได้อย่างไร?
6. เพิ่มระดับความคาดหวัง
ชีวิตที่เรียบง่ายเป็นสิ่งหนึ่ง, แต่สิ่งที่อยู่ในหัวคุณคือทรายและความคาดหวังที่จะแก้ไขตัวเองอย่างแรงกล้า -- คือการตั้งค่าความคาดหวังของตัวเองให้ต่ำกว่าความคาดหวังที่แท้จริงทำให้ดูเหมือนกับคุณกลายเป็นอย่างกับพรมเช็ดเท้า. มันมีสิ่งที่คุณต้องจ่ายอย่างมหาศาลที่จะลดระดับความคาดหวังของคุณกับระดับของของต่าง ๆ, และการกระทำของการลดความคาดหวังและรักษาและยอรับการรักษาที่ไม่ดี นั้นสามารถสร้างความเสียหายได้มากว่าในระยะยาว มันเป็นการปฏิบัติที่ไม่ดีกับตัวคุณเองอย่าสร้างสมมุติฐาน เกียวกับสิ่งที่คุณควรทำ หรืออะไรที่คุณควรคาดหวัง. ถ้าคุณกำลังมีหลาย ๆ ความคาดหวังเกียวกับทำสิ่งที่ควรจะเป็น, ทำมันให้อยู่บนพื้นญานของสิ่งที่คุณรักและเฝ้ามองมัน, ไม่ใช่สิ่งที่คุณหวังว่าจะไม่เกินขึ้น
7. ถ้าทั้งหมดล้มเหลว
ถ้าคุณทำทุกอย่างแล้วคุณสามารถเปลี่ยนสิ่งต่าง ๆ ได้ และจะหยุดการได้รับการปฏิบัติเหมือนกับพรมเช็ดเท้า แม้จะไม่มีอะไรทำจะเป็นไปอย่างที่คาดหวัง, ก็ต้องปล่อยมันไป. ชีวิตมันสั่นเกินไปที่จะประสบณ์กับความล้มเหลว และสร้างความเสียหายกับความนับถือตัวเองของคุณจากน้ำมือของคนอื่น, และบางครั้งคุณจำเป็นต้องใช้ความกล้าหาญถ้าคุณต้องการและยินดีที่จะเอาตัวเองออกจากสถาฯะการณ์ หรือความสัมพันธ์ และเริ่มต้นสร้างชีวิตแบบที่คุณต้องการ คุณจะรักการมีชีวิตอยู่
คุณสมควรได้รับสิ่งที่ดีกว่า
คุณไม่จำเป็นต้อง "ทำต่อไป เป็นต่อไป", และคุณไม้จำเป็นต้องทนกับการถูกปฏิบัติเป็นเหมือนพรมเช็ดเท้า. คุณสมควรได้รับสิ่งที่ดีกว่า, ดังนั้นเริ่มต้นทำ
February 4, 2013
101 คืออะไร
คุณเคยสงสัยไหมว่าทำไมหนังสือหลายเล่ม เกม หรืออะไรต่าง ๆ ที่คุณเห็น ต้องลงท้ายด้วย 101 "วันโอวัน" มันมีความความหมายอะไร ??? เพราะเมื่อคืนได้ดูรายการเกี่ยวกับการเงินรายการหนี่งเขาให้ความหมายเรื่อง 101 ได้ไม่ค่อยตรงใจผมซักเท่าไหรจึงอยากเขียนบทความนี้เพื่ออธิบายความหมายของเลข 101 ในความคิดเห็นส่วนตัว ที่คิดว่าเข้าใจไม่ผิด แต่ก็ไม่ได้บอกว่าถูกร้อยเปอร์เซนต์เช่นกัน
(ความคิดเห็นส่วนตัว)
ถ้าคุณเรียนมหาวิทยาลัยที่มีการจัดการเรียนการสอนแบบอินเตอร์หน่อยคุณจะเข้าใจความหมายของเลขนี้ได้ง่ายขึ้นตอนคุณเข้าปีหนึ่งวิชาที่คุณเรียนจะลงท้ายด้วยตัวเลขนี้เกือบทั้งหมด English 101, Math 101, และ Xxx 101 อีกมากมาย ซึ่งวิชาพวกนี้จะเป็นวิชาพื้นฐาน มีเนื้อหาที่ปูพื้นสำหรับการศึกษาต่อไป เนื้อหาจะไม่ยากเกินไป เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น หากไม่ใช่วิชาเรียนหรือหนังสือเรียนคำว่า 101 จะเปลี่ยนเป็น Fundamental, Beginner หรือ Basic แทน เมื่อคุณเข้าปีสอง ก็เปลี่ยนเป็นตัวเลขข้างหลังเป็น English 202, ปีสามเป็น English 303 และปีสี่เป็น English 404 ตามลำดับ แต่หากหนังสือทั่วไปแต่ต้องการบอกว่าตัวเองเป็นหนังสือที่สอบพื้นฐาน แบบหนังสือเรียน ก็สามารถเขาตัวเลข 101 มาต่อท้ายเพื่อแสดงว่าหนังสือเล่นนี้เป็นหนังสือที่สอนเกี่ยวกับพื้นฐานเบื้องต้น แทนที่จะคำ Fundamental หรือคำอื่นๆ แทนซึ่งก็ซื่อความหมายไม่ยากสำหรับชาวต่างชาติ แต่คนได้คงเข้าไจได้ไม่อยาก แต่อาจเข้าใจคลาดเคลื่อนได้ตามประสบการณ์ของแต่ละคน
(ความคิดเห็นส่วนตัว)
ถ้าคุณเรียนมหาวิทยาลัยที่มีการจัดการเรียนการสอนแบบอินเตอร์หน่อยคุณจะเข้าใจความหมายของเลขนี้ได้ง่ายขึ้นตอนคุณเข้าปีหนึ่งวิชาที่คุณเรียนจะลงท้ายด้วยตัวเลขนี้เกือบทั้งหมด English 101, Math 101, และ Xxx 101 อีกมากมาย ซึ่งวิชาพวกนี้จะเป็นวิชาพื้นฐาน มีเนื้อหาที่ปูพื้นสำหรับการศึกษาต่อไป เนื้อหาจะไม่ยากเกินไป เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น หากไม่ใช่วิชาเรียนหรือหนังสือเรียนคำว่า 101 จะเปลี่ยนเป็น Fundamental, Beginner หรือ Basic แทน เมื่อคุณเข้าปีสอง ก็เปลี่ยนเป็นตัวเลขข้างหลังเป็น English 202, ปีสามเป็น English 303 และปีสี่เป็น English 404 ตามลำดับ แต่หากหนังสือทั่วไปแต่ต้องการบอกว่าตัวเองเป็นหนังสือที่สอบพื้นฐาน แบบหนังสือเรียน ก็สามารถเขาตัวเลข 101 มาต่อท้ายเพื่อแสดงว่าหนังสือเล่นนี้เป็นหนังสือที่สอนเกี่ยวกับพื้นฐานเบื้องต้น แทนที่จะคำ Fundamental หรือคำอื่นๆ แทนซึ่งก็ซื่อความหมายไม่ยากสำหรับชาวต่างชาติ แต่คนได้คงเข้าไจได้ไม่อยาก แต่อาจเข้าใจคลาดเคลื่อนได้ตามประสบการณ์ของแต่ละคน
Subscribe to:
Posts (Atom)